กระทรวงพลังงานเตรียมผลักดันนโยบาย เน็ต มีเตอร์ริ่ง (Net Metering)

รัฐบาลใหม่หลังการเลือกตั้งปี 2562 เตรียมผลักดันการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าร์เซลระดับครัวเรือน โดยกระทรวงพลังงานเตรียมผลักดันโครงการ net metering ด้วยการหักลบกลบหนี้กันไปซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับภาคประชาชน
หลังจากที่กระทรวงพลังงานภายใต้รัฐบาลประยุทธ์ 1 ได้มีโครงการรับซื้อไฟฟ้าจาก solar root top จำนวน 100 MW ซึ่งไม่ได้รับการตอบสนองมากนัก เนื่องจากราคารับซื้อนั้นอยู่ที่หน่วยละ 1.68 บาท ขณะที่การไฟฟ้าขายไฟให้กับประชาชนที่ประมาณหน่วยละ 4 บาทกว่าๆ (รวม vat)
ล่าสุดแหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงานระบุว่า กำลังจะมีการเสนอโครงการสนับสนุนภาคประชาชนให้ผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์เซลบนหลังคาบ้าน แล้วส่งไฟฟ้าเข้าระบบ (on grid) ด้วยวิธีการเน็ตมีเตอร์ริ่ง (net metering) แบบหักลบกลบหนี้กันไปเลย
ความหมายตรงนี้ก็คือว่า เมื่อประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้เองในตอนกลางวัน แล้วมีไฟฟ้าส่วนเกินก็จะปล่อยเข้าสู่ระบบสายส่งของการไฟฟ้า ตอนกลางคืนประชาชนก็ใช้ไฟฟ้าจากระบบสายส่งแบบหักลบกลบหนี้กันไป
นั่นคือปัจจุบัน เมื่อประชาชนผลิตไฟฟ้าใช้งาน ส่วนที่เหลือการไฟฟ้ารับซื้อในราคาหน่วยละ 1.68 บาท แต่ตอนกลางคืนเมื่อใช้ไฟจากการไฟฟ้า ประชาชนจะต้องจ่ายค่าไฟในราคาหน่วยละ 4 บาทกว่าๆ ซึ่งถือว่าการผลิตไฟฟ้าส่วนเกินนั้นแทบจะไม่คุ้มค่ากับการลงทุนเลย
หากเป็นระบบ net metering ประชาชนใช้ไฟไปเท่าไหร่ในช่วงกลางคืน กลางวันก็อาจจะผลิตไฟฟ้าคืนกลับไปเท่ากับจำนวนที่ใช้ไปก็ได้ นั่นก็คือถ้าผลิตไฟได้มากกว่าที่ใช้งานก็ปล่อยให้มิเตอร์หมุนกลับด้าน แต่หากใช้ไฟมากกว่าที่ผลิตได้ มิเตอร์ก็หมุนปกติ
ระบบนี้มีใช้กันในหลายๆประเทศแถบยุโรป เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดของประชาชน แต่ในอเมริกาเอง บริษ้ทที่ขายไฟให้กับประชาชนกลับสร้างเงื่อนไขให้ทำได้ยาก ส่วนในประเทศไทยนั้นตอนนี้การทำ net metering ยังไม่มี การปล่อยไฟฟ้าเข้าระบบแล้วทำให้มิเตอร์หมุนกลับด้านนั้นการไฟฟ้าอาจฟ้องร้องเจ้าของบ้านได้หากมีการพิสูจน์ได้ว่าการปล่อยไฟย้อนเข้าระบบเยอะๆนั้นสร้างความเสียหายให้กับระบบสายส่งของการไฟฟ้า
ก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไปละครับว่านโยบาย net metering จะเป็นจริงขึ้นมาได้หรือไม่ ชาวโซลาร์รูฟท้อป ก็ต้องรอลุ้นกันตต่อไป
Leave a comment
You must be logged in to post a comment.